ท่าน ช ตุ๊ดแตก [01]


ท่านผู้อ่านเอาคลิบท่าน ช. มาให้ดู และเขียนมาดังนี้ ผมขี้เกียจเอาคลิบขึ้นบล็อก เพราะ มันไร้สาระ เนื้อหาของอีเมล์ก็เป็นดังนี้

รู้สึกว่า ท่านจะรู้ตัวแล้ว และก็มีคลิปนี้ออกมาครับ http://www.youtube.com/watch?v=RY8BPv7-XUs

ผมว่า ดร น่าจะลองมีบทความท่านผู้นี้ดูนะครับ น่าสนใจดี

ผมเข้าไปดูแล้ว พบว่ามีคนใช้นามแฝงว่า tanawat303 เป็นคนมาเผยแพร่ตั้งแต่ 26 ก.ย. 2012  มีคำอธิบายประกอบวิดิโอดังนี้

มีคนกล่าวว่าท่าน ช มั่ว เอาศาสนาคริสต์ มาปนกับ ศาสนาพุทธ มั่วไปหมด

เราเหล่าทีมงานจึงจัดทำคลิปเสียงนี้เพื่อจะได้อธิบายให้เขาเหล่านั้นได้เข้าใจ เข้าใจถึงการทำงานของท่าน ช และคณะ ว่า

ทำงานให้ใครอยู่ และทำงานนี้เพื่อต้องการอะไร

ก่อนอื่นขอวิพากษ์วิจารณ์ทีมงานก่อนเลย

ข้อเขียนที่ผมเขียนไปนั้น รับรองความถูกต้อง คือ ท่าน ช ชั่ว มั่วหลอกแดกประชาชนท่านนี้ ไม่มีความรู้อันใดในทางปฏิบัติธรรม แต่ต้องการหลอกแดกประชาชน จึงจับแพะชนแกะไปเรื่อย

เอาทั้งพุทธ ทั้งคริสต์ ทั้งพราหมณ์มาปนเปกันไปหมด โดยไม่มีหลักวิชาการใดๆ  ที่ผมวิพากษ์วิจารณ์ไปนั้น  มีหลักฐานสนับสนุนทั้งสิ้น

ขอให้ดูหลักฐาน ที่เป็นข้อเขียนของคนอื่น เพียงชิ้นเดียวก็พอ เอาข้อมูลมาจาก http://academicthai.blogspot.com/2011/07/blog-post_29.html ก็ได้ ท่านเขียนมาอย่างนี้

วิจารณ์หนังสือ "นิพพานชาตินี้กันเถอะ"

ผมได้อ่านหนังสือชื่อ นิพพานชาตินี้กันเถอะ ที่มีผู้ปราถนาดีนำมาแจกให้ เป็นหนังสือเล่มเล็กๆ ปกอ่อนสีเหลือง

ผมอ่านแล้ว ขอวิเคราะห์ว่า

ผู้เขียนนำแนวคิดทางศาสนาอื่นแทรกเข้ามา ดูจะมีเจตนาเอาคำสอนภายนอก มาปนในคำสอนพุทธศาสนา 

ส่วนที่เหลือบางส่วน อ่านเผินๆ ก็เห็นได้ว่า ไปแปลงคำสอนของของครูบาอาจารย์ มาใช้ โดยเขาก็ใช้คำและสำนวนเลียนแบบเท่านั้น

หนังสือเล่มนี้ผมเห็นว่า

ถ้าคนทั่วไปที่ไม่ได้ศึกษาปริยัติมาบ้าง เมื่อมาอ่านแล้ว จะเข้าใจเรื่องคำสอนทางพุทธศาสนาไปผิดๆได้ กล่าวถึง นิพพานปนกับสวรรค์ พูดกำกวมประหนึ่งว่าเป็นสิ่งเดียวกัน เป็นคำสอนของฝรั่งไป

ผมไม่แนะนำให้อ่านเล่มนี้ และถ้าใครมีไว้ ก็ไม่แนะนำให้แจกคนอื่นอ่านต่อไป จะเป็นผลเสีย ส่วนจะไปจัดการอย่างไรก็สุดแล้วแต่เห็นสมควร

จะเห็นว่า ท่านผู้เขียนนั้น  เขียนไว้ชัดเจนว่า "ผมไม่แนะนำให้อ่านเล่มนี้ " แสดงว่า ท่านก็เห็นว่า คำสอนของ ท่าน ช.  มันเป็นไปไม่ได้  มันบ้า...

จะเห็นว่า คำวิพากษ์วิจารณ์สำหรับทีมงานที่เอาวิดิโอมาลง youtube ก็คือ ทีมงานนี้ สมองหมา ปัญญาควายแท้ๆ  ไม่รู้สิ่งไหนถูก สิ่งไหนผิด สิ่งไหนไม่ถูกต้อง

คุณทำงานให้คนผิด คือ เอาศาสนามาหลอกแดกประชาชน  คุณก็จะต้องรับผลของกรรมนั้นไปด้วย  เงินที่ได้มา ไม่คุ้มกับผลกรรมที่จะได้รับเลย

ต่อไปเข้าเนื้อหาการวิพากษ์วิจารณ์ ท่าน ช ชั่ว มั่วหลอกแดกประชาชนในวิดิโอ

 วิดิโอนี้มีความยาวประมาณ 10 นาที  ผมขอยกคำตอบของท่าน ช ที่พอจะนำมาวิพากษ์วิจารณ์ได้ดังนี้

ก็ต้องตอบตามตรงว่า ไอ้คนพูดมันก็มั่ว

คำว่า พระผู้เป็นเจ้า แม้แต่นางวิสาขามหาอุบาสิกา พระนางสามาวดี พระนางมัลลิกา ต่างก็ยกย่องว่าพระพุทธเจ้าเป็นเจ้าแห่งชีวิตของดิฉัน

เพราะฉะนั้น คำว่าพระผู้เป็นเจ้านี่ มันไม่ได้หมายความว่า เป็นพระศาสดาหรือเป็นผู้ที่ให้กำเนิดศาสนาใดศาสนาหนึ่ง แต่ใครก็ได้ ที่เคารพยกย่องเทพเจ้าองค์ใด แล้วยกย่องให้เป็นพระบิดา ยกย่องให้เป็นพ่อ ยกย่องให้เป็นพระผู้เป็นเจ้า แล้วแต่บุคคลใดจะตีความหมายเป็นอย่างไร

เพราะฉะนั้นไม่ได้ระบุชัดเจนเลยว่า ท่าน ช ถ่ายทอดสัญญาณให้กับพระผู้เป็นเจ้าของศาสนาโน้น ศาสนานี้

ท่าน ช ชั่ว มั่วหลอกแดกประชาชนผู้นี้ ไม่ได้มีความฉลาดติดตัวมาเลย อาศัยใจกล้าหน้าด้านกล้าหลอกคนเท่านั้น

เหตุผลของผมก็คือ การแก้ตัวของเขามัน “มั่ว” จริงๆ  ขัดกับข้อเขียนของมันเองที่เขียนไปแล้ว

ผมขอยกข้อเขียนของ ท่าน ช ชั่ว มั่วหลอกแดกประชาชน ในหน้าเว็บ “ความรู้ภาคพิเศษ (อจินไตย)” ดังนี้

เรื่องจริงของทุกดวงจิตที่ยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ ทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนา ทุกลัทธิ จำเป็นต้องรู้ และควรที่จะรู้จักชื่อพ่อผู้ให้กำเนิดอย่างแท้จริง

ต้นกำเนิดแห่งจิตเดิมจิตแท้ จิตปภัสสร ที่ผ่านมาแต่กาลก่อนไม่มีใครรู้จัก

ชาวพุทธส่วนใหญ่ ไม่มีใครสนใจเรื่องของพระผู้เป็นเจ้ามากนัก เพราะมีพระพุทธเจ้า เป็นที่พึ่งอันประเสริฐสูงสุดอยู่แล้ว

แม้แต่พระพุทธเจ้าก็มิเคยพูดถึงเรื่องราวของพระผู้เป็นเจ้า ให้เหล่าสาวกทั้งหลายได้รับรู้และรับฟังมาก่อน

ทรงตรัสแต่เพียงว่า “ความรู้ที่ตถาคตนำมาสอนพวกเธอในเวลานี้ เปรียบเพียงใบไม้ใน กำมือนี้เท่านั้น แต่สิ่งที่ตถาคตรู้แล้วไม่ได้นำมาบอกพวกเธอนั้น มีมากกว่า ใบไม้ที่มีอยู่ในป่า”


ขอให้ดูข้อความที่ทำสีแดงไว้  ข้อเขียนอย่างนี้แสดงว่า พระผู้เป็นเจ้ากับพระพุทธเจ้าเป็นคนละคนกัน 

แล้วไอ้ท่าน ช. ผู้โง่เขลาคนนี้ เอาเรื่อง “ใบไม้ในกำมือ” มาพูดนอกเรื่อง 

คำว่า “ใบไม้ในกำมือ” ของพระพุทธองค์  ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้  “ใบไม้ในกำมือ” ต้องหมายถึงคำสอนที่เกี่ยวเนื่องกับศาสนาพุทธ  ไม่ใช่เรื่องพระเจ้าอย่างที่ ท่าน ช. กล่าวมา

ท่าน ช ชั่ว มั่วหลอกแดกประชาชนเอามาอ้างผิดที่ผิดทาง เพื่อหลอกประชาชนเท่านั้น

พระบรมบิดา ก็คือพระผู้เป็นเจ้าผู้สร้างโลก

ผู้เป็นต้นกำเนิดแห่งจิตบริสุทธิ์ และเป็นผู้สร้างจิตรู้ของพวกเราขึ้นมาทั้งหมด เป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่สูงสุดบน แดนทิพย์ทั้งปวง จะเรียกท่านว่า พระบรมบิดา, พระบิดาสวรรค์, พระผู้เป็นเจ้า, หรือองค์ปฐมบรมบิดา..ก็ได้

ตรงนี้ข้อความทั้งหมดเลย จะเห็นว่า ไม่เกี่ยวกับศาสนาพุทธ เป็นเรื่องของศาสนาคริตส์แท้ๆ  นี่แหละหลักฐานที่แสดงว่า ท่าน ช ชั่ว มั่วหลอกแดกประชาชน แก้ตัวได้มั่วมากๆ

พูดถึงพระผู้เป็นเจ้าก็บอกไว้ชัดเจนในตำรานิพพานชาตินี้กันเถอะ พูดให้ชัดเจนว่า เป็นความรู้ภาคพิเศษ ไม่ได้บอกว่าเป็นของศาสนาไหน

ท่าน ช ชั่ว มั่วหลอกแดกประชาชน ท่านจะหลอกประชาชนแบบมั่วๆ  แต่คนอ่านที่ฉลาดเขาก็รู้ทัน  มีแต่พวกสาวกโง่ๆ เท่านั้น ที่รู้ไม่ทัน  เพราะ พวกมันเป็นควายกันทุกคน  ชาติต่อไปก็ควรที่จะเกิดเป็นควายจริงเสียบ้าง

แล้วที่ว่าเป็น “ความรู้ภาคพิเศษ”  มันพิเศษแบบหลอกคนโง่หรือไง 

ผมอ่านมาทั้งหนังสือ ทั้งเว็บทั้งหลาย  มีแต่เรื่องแหกตาง่ายๆ คือ “ตั้งจิต” อย่างเดียว แล้วก็รอให้ปาฏิหาริย์มันเกิด ซึ่งก็ไม่มีทางเกิดขึ้นมาได้แน่ๆ

แล้วหลักการสอนหลักๆ เลย คำว่า นิพพานชาตินี้กันเถอะ มันเป็นภาษาบาลีล้วนๆ เป็นของพระพุทธศาสนาล้วนๆ

แก่ เกิดแก่เจ็บตายเป็นของพุทธล้วนๆ ยกย่องเทิดทูน ประกาศคุณ สรรเสริญคุณขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างถ่องแท้สูงสุด

ท่าน ช ชั่ว มั่วหลอกแดกประชาชน ท่านนี้ น่าจะตกภาษาไทย  คำว่า “นิพพานชาตินี้กันเถอะ” มันเป็นภาษาไทยล้วนๆ เลย  

เพียงแต่คำว่า “นิพพาน” เป็นคำยืมมาจากภาษาบาลีเท่านั้น

แล้วที่เขียนว่า “ยกย่องเทิดทูน ประกาศคุณ สรรเสริญคุณขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างถ่องแท้สูงสุด”  นี่ก็โกหกกันอย่างหน้าด้านๆ

ถ้ายกย่องพระพุทธเจ้าจริง ก็ไม่ต้องมี “พระบรมบิดา พระบรมบิดา, พระบิดาสวรรค์, พระผู้เป็นเจ้า, หรือองค์ปฐมบรมบิดา” เพราะ คำศัพท์ของภาษาไทย สามารถเผยแพร่คำสอนของพระพุทธศาสนาได้ครบถ้วนอยู่แล้ว………….






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น