ไปนิพพานชาตินี้กันเถอะ [02]


บทความนี้ เป็นบทความที่ 2 ของการวิพากษ์วิจารณ์ เนื้อหาของ “ไปนิพพานชาตินี้กันเถอะ” ของคุณ nouk

ข้อความส่วนนำของบทความ “ไปนิพพานชาตินี้กันเถอะ” ที่ผมเกริ่นนำไปแล้ว แต่ยังไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์ มีดังนี้

“สัญญาณความรู้จากจิตผู้บริสุทธิ์องค์ปฐม “จงเบื่อหน่ายการเรียนรู้ รีบกลับสู่แดนทิพย์นิพพานกันเถอะลูกเอ้ย”

“มนุษย์ธรรมดาสามัญก็นิพพานได้ นำจิตสู่แดนทิพย์อมตะสุขสวรรค์ นิรันดรได้ ไปได้ทุกคน ทุกเชื้อชาติ ศาสนา ทุกดวงจิต

ไม่ต้องออกจากเรือน ไม่ต้องไปเป็นนักบวช หรือมุ่งเน้นการปฏิบัติทางกาย ไม่ต้องเป็นพระภิกษุก่อน ถึงจะได้คำว่า นิพพาน

จงทำจิตให้แจ้ง ให้เข้าใจถึงความจริงของธรรมชาติ เข้าสู่สถานที่ไม่ต้องเกิด แก่ เจ็บ และตาย ด้วยวิธีง่ายๆ ลัดๆ สั้นๆ

ด้วยการตั้ง จิตอธิษฐานตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปนะลูกเอ้ย...”

ข้อความสั้นๆ ด้านบนนั้น  รวมรวมความคิด หลักการ หลักคิดของท่าน ช ชั่ว มั่วหลอกแดกประชาชนไว้ทั้งหมด

คำสอนของ ท่าน ช ชั่ว มั่วหลอกแดกประชาชน ก็มีอยู่แค่นั้น 

ส่วนอื่นที่เขียนเพิ่มขึ้นมา ก็เป็นขยะปลีกย่อยทั้งนั้น  ทำเพื่อให้ดูว่า มีเนื้อหาสาระ  แต่ไม่ได้มี “อหิวาตกโรค” อันใดเลย

เริ่มกันตั้งแต่ข้อความแรกเลย

“สัญญาณความรู้จากจิตผู้บริสุทธิ์องค์ปฐม “จงเบื่อหน่ายการเรียนรู้ รีบกลับสู่แดนทิพย์นิพพานกันเถอะลูกเอ้ย”

ข้อความสั้นๆ ดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า ท่าน ช ชั่ว มั่วหลอกแดกประชาชน สอนสาวกควายๆ ทั้งหลายว่า “ให้เลิกเรียนรู้”  

คือ ไม่ต้องไปศึกษาแล้ว ปริยัติ และไม่ต้องไปปฏิบัติสมถะหรือวิปัสสนากรรมฐานแล้ว

วันๆ ก็มาอธิษฐานจิตกับ ท่าน ช ชั่ว มั่วหลอกแดกประชาชน เดี๋ยวก็ได้ไปนิพพานกันหมด

ถ้ามันเป็นจริงอย่างนั้น  ป่านนี้ สาวกของท่าน ช ชั่ว มั่วหลอกแดกประชาชน คงใกล้ถึงนิพพานเต็มทีแล้วละมั้ง

แต่เป็น “นิพพานของท่าน ช ชั่ว” เอง ไม่ใช่นิพพานของศาสนาพุทธ

ที่นี้ “แดนทิพย์นิพพาน” ของท่าน ช ชั่ว ท่านนี้ จะเป็นอย่างไร พอตายแล้วคงได้รู้กัน  แต่ผมรู้อยู่แล้วว่า ท่าน ช ชั่ว มั่วหลอกแดกประชาชน กับสาวก ก็มุ่งตรงต่ออบายภูมิสถานเดียว

ก็ท่าน ท่าน ช ชั่ว มั่วหลอกแดกประชาชน อาศัยศาสนาพุทธเป็นหลัก  เอาคำสอนของศาสนาอื่นมาปนเปอย่างไม่รู้จริง

ผมเองไม่ค่อยดูถูกคนในเรื่องการศึกษาเท่าไหร่นัก แต่สำหรับ ท่าน ช ชั่ว มั่วหลอกแดกประชาชน ขอสักครั้งหนึ่งเถิด

ท่าน ช ชั่ว มั่วหลอกแดกประชาชน จบ ป. 7 แล้วมาต่อ กศน. เทียบเท่า มศ. 3 ถามจริง ความรู้ทางโลก จะมีได้ถึงขนาดไหน

เอาความรู้ทางธรรมบาง บวช 5 พรรษา ก็ทำบ้าๆ บอๆ วิ่งด่าตัวเองรอบกุฎิ  ถามจริงความรู้ทางธรรมจะมีในระดับไหน

เห็นหนังสือของฤาษีลิงดำ มีภาพ “สมเด็จองค์ปฐม” ก็ไปคว้าเอามาเครื่องมือทำมาหากิน โดยไม่เคยไปพบ ไปหา ไปเรียนกับฤาษีลิงดำเลย

ผมถึงบอกว่า ใครเชื่อ ท่าน ช ชั่ว มั่วหลอกแดกประชาชน นี่ก็ควายตัวจริงเสียงจริงแท้ๆ

ข้อความต่อมา

“มนุษย์ธรรมดาสามัญก็นิพพานได้ นำจิตสู่แดนทิพย์อมตะสุขสวรรค์ นิรันดรได้ ไปได้ทุกคน ทุกเชื้อชาติ ศาสนา ทุกดวงจิต

ไม่ต้องออกจากเรือน ไม่ต้องไปเป็นนักบวช หรือมุ่งเน้นการปฏิบัติทางกาย ไม่ต้องเป็นพระภิกษุก่อน ถึงจะได้คำว่า นิพพาน

ข้อความนี้ก็เช่นเดียวกัน  ท่าน ช ชั่ว มั่วหลอกแดกประชาชนรู้ว่าสมัยนี้ คนชอบแดกด่วน

ท่านจับจุดตรงนี้ได้  อาจจะเกิดจากประสบการณ์ในการบวชมา 5 พรรษาก็ได้

การที่จะหลอกแดกประชาชนในเพศพระภิกษุนั้น  เนื่องจากอิทธิพลไม่มี พวกพ้องไม่มาก อาจจะโดยเถรสมาคมเช็คบิลเอาได้ง่ายๆ  หรืออาจจะโดยพระนักวิชาการทั้งหลาย รุมกระทืบเอาได้ง่าย

อย่ากระนั้นเลย  กูสึกมาหลอกแดกประชาชนเสียดีกว่า เพราะ กฎหมายเล่นยาก ก็อยากเอาเงินไปให้เขาเอง

คือ การหลอกทั่วไปธรรมดา อย่างที่มิจฉาชีพทำกันนั้น ตำรวจอาจจะจับได้ง่าย แต่การหลอกด้วยศรัทธาทางศาสนานี้ ตำรวจับยาก

ท่าน ช ชั่ว มั่วหลอกแดกประชาชน จึงมาโฆษณาชวนเชื่อว่า ไม่ต้องบวช ไม่ต้องปฏิบัติธรรมให้ปวดขา  ไม่ต้องศึกษาอะไร 

มาหาฉัน เดี๋ยวพาไปนิพพานเอง

พวกขี้เกียจทั้งหลาย เห็นช่องท่างจะไปนิพพานได้ง่ายๆ ก็รีบมาเป็นสาวกกันใหญ่  ไม่รู้เลยว่า ท่าน ช ชั่ว มั่วหลอกแดกประชาชนจะพากันเดินไปอบายภูมิ

สมน้ำหน้าในความโง่ ของพวกควายๆ ทั้งหลาย

ข้อความสุดท้าย

จงทำจิตให้แจ้ง ให้เข้าใจถึงความจริงของธรรมชาติ เข้าสู่สถานที่ไม่ต้องเกิด แก่ เจ็บ และตาย ด้วยวิธีง่ายๆ ลัดๆ สั้นๆ ด้วยการตั้งจิตอธิษฐานตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปนะลูกเอ้ย...”

เท่าที่อ่านมาทั้งหมด ท่าน ช ชั่ว มั่วหลอกแดกประชาชนก็มีองค์ความรู้อยู่แค่นี้ คือ “การตั้งจิตอธิษฐาน”  ที่จะไปนิพพาน เดี๋ยวก็ได้ไป

มันจะเป็นไปได้อย่างไร ไม่ต้องผ่านวิชชา 3 ไม่ต้องผ่านอริยสัจ 4 ไม่ต้องโพธิปักขยธรรม ไม่ต้องเรียนอะไรทั้งสิ้น

ผมว่า “นรกโลกันต์” นั่นแหละเป็ยที่หมายของคนพวกนี้ ........................



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น