วันนี้มาต่อภาค
2 ที่ท่าน ช ชั่ว หลอกแดกประชาชนเขียนเรื่อง “พระบิดาสวรรค์” ไว้
พระบิดาสวรรค์ ก็คือพระผู้เป็นเจ้าผู้สร้างโลก , สมเด็จองค์ปฐมบรมบิดา, พ่อใหญ่, และมีอีกหลายพระนาม โดยเฉพาะในประเทศไทย
พระองค์ส่งสัญญาณลงมายังผู้ที่มีจิตทิพย์สามารถรับสัญญาณได้
เพื่อทำหน้าที่ฉุดช่วยให้ความรู้เพิ่มเติม เสริมแต่งสติปัญญาสรรพชีวิตทั้งปวง
ข้าพเจ้าทูลถามพระองค์ว่า จะให้เปิดเผยชื่อในแต่ละพระนาม
ที่มีคนไทยรู้จักได้หรือไม่ ซึ่งพระองค์บอกว่า ไม่มีความจำเป็น...
รู้ไปก็เท่านั้น.. ไม่เป็นประโยชน์
เพราะจะเกิดการตำหนิติเตียนกันในหมู่ชน..ที่ยังติดดีกันอยู่
จะเกิดการกล่าวหากันว่า เป็นของจริงของปลอม..เป็นภาคมารไปเลยก็มี เพราะฉะนั้น
พูดถึงเฉพาะสัญญาณที่ส่งลงมาเจ้าก็พอ..
[วิพากษ์วิจารณ์]
อ่านตรงนี้
ขำจนพุงกระเพื่อม.... การโกหกหลอกคนก็มีรูปแบบเป็นแบบนี้ทั้งนั้น พระบิดาสวรรค์จะ “สื่อ”
มาให้คนเดียว โดยไม่มีเหตุผล
การหลอกแบบนี้
ศาสนาคริสต์นิกายโรมันแคธอลิกก็เคยหลอกมาแล้ว
คือ หลอกให้สาวกซื้อใบสวรรค์ จนกระทั่งเกิดนิกายโปแตสแตนส์ขึ้น
พระบิดาสวรรค์ คือผู้เป็นใหญ่สูงสุด บนแดนทิพย์ทั้งปวง
รวมทั้งแดนทิพย์นิพพานสวรรค์นิรันดรด้วยเช่นกัน
พระองค์มีหน้าที่ยิ่งใหญ่ในการควบคุมดูแล ในทุกๆ ดวงจิตลูกๆ
ทั้งที่เป็นจิตกายทิพย์ในทุกๆ แดนทิพย์ มีหน้าที่ดูแลลูกๆ
ผู้กำเนิดเป็นมนุษย์ทุกดวงจิต ...
พระบิดาสวรรค์ คือพระนามที่พวกเราจะต้องกำหนดจดจำใว้ให้ขึ้นจิต
เพราะการที่พวกเราผู้ฝึกอภิญญา จะได้พบพระองค์ได้หรือไม่
ก็เหตุที่จะต้องกำหนดตั้งจิตขอพบพระองค์เท่านั้น...ถึงจะได้พบ..ได้เห็นของ จริง
ไม่อย่างนั้นพระองค์ก็จะปรากฏกายทิพย์ ให้ใครเห็นเป็นใครก็ได้
เป็นอะไรก็ได้โดยที่เราไม่รู้ความจริงว่า ที่แท้ผู้ที่อยู่เบื้องหน้าของเรานั้นคือ
พระบิดาสวรรค์ หรืออีกพระนามหนึ่งอันเป็นที่คุ้นหูของมนุษย์เป็นอย่างดีคือ
พระผู้เป็นเจ้า..ผู้ยิ่งใหญ่เหนือสรรพชีวิต...
[วิพากษ์วิจารณ์]
ท่าน
ช ชั่ว หลอกแดกประชาชนมั่วจนผิดพลาดเมื่อถึงตอนนี้ “เพราะการที่พวกเราผู้ฝึกอภิญญา
จะได้พบพระองค์ได้หรือไม่ ก็เหตุที่จะต้องกำหนดตั้งจิตขอพบพระองค์เท่านั้น”
ตรงนี้ท่าน
ช ชั่ว หลอกแดกประชาชนมั่วนิ่มๆ แต่ก็มีสาวกควายๆ
เชื่อกันไปเยอะ
เท่าที่อ่านมาแล้ว ท่าน ช ชั่ว หลอกแดกประชาชนเน้นอย่างเดียวคือ “ต้องกำหนดตั้งจิตขอพบพระองค์เท่านั้น” เพราะ ท่าน ช ชั่ว หลอกแดกประชาชนไม่เคยเรียนธรรมปฏิบัติใดๆ
ฤาษีลิงดำก็ไม่เคยพบ
ไม่เคยเรียน แต่จะเอาวิชาของท่านมาหากินก็ต้องอ้างเรื่องอภิญญา แต่ก็สารภาพว่า “ไม่ได้อภิญญาใดๆ” เพราะ ถ้าอ้างว่าได้อภิญญา เดี๋ยวลูกศิษย์ฤาษีลิงดำก็จะจับผิดเอาได้
หากินง่ายจริงๆ
ท่าน ช ชั่ว หลอกแดกประชาชน
พระองค์ ไม่ได้ปรากฏจิตกายทิพย์ให้ให้เห็นได้ง่ายๆ พระองค์บอกว่า
มนุษย์นั้นมีความเชื่อต่อพระศาสดาของตน
รู้จักแต่ผู้ที่เคยมีชื่ออยู่ในแดนมนุษย์เท่านั้น จดจำแต่หลวงปู่หลวงพ่อที่เคารพศรัทธา
ไม่เคยสนจิตในเรื่องของผู้ที่ยิ่งใหญ่สูงสุดบนแดนทิพย์แห่งนั้น
[วิพากษ์วิจารณ์]
ท่าน
ช ชั่ว หลอกแดกประชาชนพยายามหาเหตุผลให้กับเรื่องโกหกของตนเอง พระบิดาสวรรค์ที่ท่าน
ช ชั่ว หลอกแดกประชาชน “ผลิตขึ้นมา” ไม่มีจริง
แต่งเรื่องเพื่อโกหกอย่างหน้าด้านๆ
เมื่อจิตเคารพศรัทธาผู้ใดในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่
ก็จะยึดถือแต่ท่านผู้นั้น จนกระทั่งฝึกจิตทิพย์ได้
เมื่อมีโอกาศนำจิตไปยังสวรรค์ชั้นต่างๆ หรือบนแดนทิพย์นิพพานสวรรค์นิรันดรได้แล้ว
ก็จะพบแต่ผู้ที่มีชื่ออยู่ในจิตเท่านั้น
พระองค์จึงไม่ปรากฏจิตกายทิพย์ให้ผู้นั้นได้เห็นตามความเป็นจริง
ด้วยเหตุนี้..ชาวพุทธในประเทศไทยจึงมีเพียงจำนวนน้อยนิดที่จะรู้จัก พระองค์..
[วิพากษ์วิจารณ์]
ตรงนี้ก็เหมือนกัน คนไทยไม่มีใครพบพระบิดาสวรรค์กันหรอก แม้แต่ท่าน
ช ชั่ว หลอกแดกประชาชนเอง เพราะ มันไม่มีจริง
ด้วยเหตุนี้..เรื่องราวตามความเป็นจริง..จึงไม่จำเป็น
ต้องถูกเผยแต่ประการใด เพราะพระองค์เห็นว่า จิตมนุษย์เมื่อเคารพศรัทธาในผู้ใด
ก็จงเคารพศรัทธา ผู้นั้นต่อไปอย่างมั่นคง นั่นแหละเป็นสิ่งที่มนุษย์
ควรที่จะจดจำในคำแนะนำนี้...จนกระทั่งมีความมั่นจิตมั่นใจ ในตนเองสูงสุด
..แล้วตั้งจิตขอพบพระองค์ได้ ณ โอกาสบัดนี้เป็นต้นไป..
เมื่อพระองค์อนุญาตให้ข้าพเจ้าเปิดเผยความจริงทุกเรื่องราว บนแดนทิพย์ทุกแดนทิพย์
ก็แสดงว่าถึงเวลาแล้ว...ที่มนุษย์ในทุกๆ ดวงจิต
จะได้รับรู้เรื่องราวตามความเป็นจริงในยุคนี้ ..รู้แจ้งโลก..
[วิพากษ์วิจารณ์]
โอย.......ขำจนเสียดหน้าอก เรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลที่สุดก็คือ ทำไมพระบิดาสวรรค์จะต้องเลือกท่าน ช ชั่ว
หลอกแดกประชาชนเป็นประชาสัมพันธ์ส่วนตัว
พระบิดาสวรรค์นี่
ไม่มีปัญญาเลือกคนที่มันดีกว่านี้แล้วหรือไง
พระองค์ มีหน้าที่อะไร..?...บนแดนทิพย์สวรรค์นิรันดร...พระองค์มีหน้าที่ควบคุมดูแล
จิตกายทิพย์..ของผู้ที่ได้กลับคืนสู่ความเป็นอมตะจิตแล้ว และพระองค์มีหน้าที่
ดูแลความสงบเรียบร้อยของแดนทิพย์ทั้งปวง
ทั้งยังมีหน้าที่ต้องติดตามให้ความรู้แก่มนุษย์... ผู้ยังหลงอยู่ในการเวียนว่ายตายเกิด
ให้ได้กลับคืนสู่..ห้วงจักรวาลแห่งจิตของผู้ให้กำเนิดจิตพวกเรามา พูดง่ายๆ ก็คือ
จิตของเราได้กลับเข้าไปสู่จิตเดิม..จิตแท้..จิตพ่อ..ผู้สร้างจิตพวกเรา..
[วิพากษ์วิจารณ์]
ตรงนี้ก็มั่วอีก “พูดง่ายๆ ก็คือ
จิตของเราได้กลับเข้าไปสู่จิตเดิม..จิตแท้..จิตพ่อ..ผู้สร้างจิตพวกเรา..” ตรงนี้เอาเรื่องพรหมันของศาสนาพราหมณ์เข้ามาปนอีก
ไอ้ท่าน
ช ชั่ว หลอกแดกประชาชนนี่ มันมั่วของมันไปหลายศาสนาเลยวุ้ย..............
ภายในจักรวาลแห่งจิตอันกว้างใหญ่ของพระบิดาสวรรค์ ชาวพุทธเรียกว่า
แดนทิพย์นิพพาน แดนทิพย์อมตะสุขตลอดกาล แต่ศาสนาอื่นๆ
ที่ไม่ได้นับถือหรือศรัทธาในพระสัมมาสัทพุทธเจ้า..จะรู้จักในชื่อว่า
สวรรค์นิรันดรนั่นเอง หรือชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งของพระองค์ก็คือ
พระผู้เป็นเจ้า..แห่งสรรพสิ่งสรรพชีวิต หรือจะเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า
ศูนย์กลางจักรวาลแห่งจิตกายทิพย์ของพระผู้เป็นเจ้า
หรือถ้าจะเรียกเป็นภาษาชาวบ้านให้ผู้ที่เป็นชาวบ้านอย่างเราๆ ได้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ
จิตกายทิพย์ของพวกเรา...ผู้ตั้งจิตปรารถนาที่จะกลับคืนสู่แดนทิพย์อมตะสุข
สววรค์นิพพานในชาตินี้.. เมื่อเราตั้งจิตดังนี้.. เมื่อถึงอายุขัยถึงวันตายของร่างกายมนุษย์เมื่อใด
จิตเดิมจิตแท้ของเรา..ก็จะกลับคืนสู่จิตเดิมจิตแท้ของพระผู้เป็นเจ้า
ผู้สร้างหรือก๊อบปี๊จิตของเราขึ้นมา..นั่นก็คือ...จิตเราได้กลับเข้าไปรวม
เป็นจิตหนึ่งในจิตของพระองค์ตลอดกาลนั่นเอง...
[วิพากษ์วิจารณ์]
โดยสรุป
ท่าน ช ชั่ว หลอกแดกประชาชน มันมั่ว มันเมายาบ้าหรือยังไงก็ไม่รู้
ถึงได้แต่งเรื่องโกหกมาหลอกประชาชน
ตามหลักวิชาปรัชญาที่เคยเรียนมากับอาจารย์อุทัย
ดุลยเกษม ตอนเรียนปริญญาเอกสหวิทยาการที่ธรรมศาสตร์ อาจารย์อุทัยบอกว่า
คนที่อยากเป็นผู้นำกลุ่มนั้น ไม่ว่าจะเสนอแนวคิดบ้าบอคอแตกขนาดไหน
ก็ให้เสนอแนวคิดนั้นๆ ให้มั่นคง แต่ก็จะมี
“สาวกควายๆ” เข้ามานับถือเอง
ตัวอย่างของท่าน
ช ชั่ว หลอกแดกประชาชนกับสาวกควายๆ กลุ่มนี้ ก็ยืนยันคำสอนของอาจารย์อุทัย
ได้เป็นอย่างดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น