ท่าน ช ตุ๊ดแตก [03]


วันนี้มาวิพากษ์วิจารณ์ ท่าน ช ชั่ว มั่วหลอกแดกประชาชนกันต่อ เป็นบทความที่ 3

เอาละ พูดแค่นี้ ก็ไปคิดพิจารณาเอาก็แล้วกันว่า ที่พูดมาทั้งหมดนี้ สมควรที่จะอัตถาธิบายกันมากกว่านี้หรือไม่ ว่าจำเป็นต้องสนใจไหม 

พระพุทธศาสนาสอนไว้ว่า จงอย่าเพ่งโทษโจทก์ความผิดผู้อื่น จงหาความเลวในจิตของตัวเองให้เจอ แล้วทำลายมันซะ

อย่าไปหาความดีในจิตของตนเอง เพราะ จิตมันจะเข้าข้างว่า กูแน่ กูเก่ง กูรู้

ท่าน ช ชั่ว มั่วหลอกแดกประชาชนพยามหาเหตุผลเพื่อป้องกันการวิพาษ์วิจารณ์แบบแปลกๆ คือ พยายามห้ามคนอื่น

อันที่จริง ถ้าที่ท่าน ช ชั่ว มั่วหลอกแดกประชาชนเผยแพร่มาเป็น “ความจริง” ก็ไม่เห็นจะเดือดร้อนอะไร  ก็อธิบายออกมาตรงๆ

แต่ที่เป็นอย่างนี้ ก็เป็นเพราะ ที่ผมวิพากษ์วิจารณ์ไปนั้น “มันถูกต้องตรงเผง” ตรงใจดำท่าน ช ชั่ว มั่วหลอกแดกประชาชนเข้าจังเบ้อเร่อ

ท่าน ช ชั่ว มั่วหลอกแดกประชาชนก็ไปไม่เป็น พยายามชักแม่น้ำทั้งโลกว่า “อย่ามาวิพากษ์วิจารณ์ฉัน

ผู้ที่รู้กว่าตนเองนั้นมีอยู่ ผู้รู้เขาย่อมไม่พูดมาก ผู้ที่พูดมากนั้น ยังไม่รู้ว่าตนเองว่าพูดอะไร

น้ำลายที่มันอยู่ในปากพวกเจ้านั้น มันอยู่ในปาก มันอยู่ในปากก็อมได้เป็นวันเป็นคืน ไม่เห็นมันเหม็น ไม่เห็นมันเน่า ไม่เห็นมันบูด และไม่เหม็น..จมูกชาวบ้านเขา

ลูกศิษย์ท่าน ช ชั่ว มั่วหลอกแดกประชาชนคงจะเหม็นน้ำลายของมันน่าดู เพราะ มันชอบพูด

ผมไม่ค่อยได้พูดเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ผมจะเขียน

แต่เมื่อมันพูดออกมาแล้ว น้ำลายมันกระเด็นออกมา มันเปรอะเปื้อนกันเล็กน้อย

มันก็เหม็น มันก็เน่า มันก็บูด จงระมัดระวังการพูดการจาเอาไว้ให้ดี

พูดแค่นี้ก็คงไม่ต้องอธิบายมาก เพราะฉะนั้นไปคิดพิจารณาของใครของมันว่า ผู้ที่ดีจริงย่อมไม่ยุ่งเกี่ยวกับจริยาหรือในเรื่องของผู้อื่น ในส่วนที่ตนไม่ยุ่งเกี่ยว

ท่านก็ระวังการพูดการจาของท่านให้ดี ท่าน ช ชั่ว มั่วหลอกแดกประชาชน คำพูดของท่านมันจะพาท่านกับสาวกไปอบายภูมิ

ถ้า ไอ้ ช มันไปก้าวก่ายของพวกเจ้า งานของสำนักไหน มันไปพูดพาดพิงถึงพวกเจ้าในสำนักไหน ค่อยว่าเขา

ถ้าเขาไปขอเงิน ไปเรี่ยไร พวกเจ้า ไปหลอกแดกพวกเจ้า นั่นแหละ ค่อยด่ามัน ตำหนิมัน

อันนี้ก็มาแปลก ก็ท่านสอนผิด คนที่เห็นต่างกับท่าน และคิดว่าท่านสอนผิดแน่ๆ ก็ออกมาวิพากษ์วิจารณ์  ทำไมจะต้องไปพาดพิงสำนักไหน 

ถ้าท่านสอนผิดแบบนี้  มันก็พาดพิงไปทุกสำนักของพระพุทธเจ้านั่นแหละ

นี่ ไอ้ ช มันไม่ได้ไปขอ ไปเรี่ยไร ไปหลอกแดกพวกเจ้า แต่ไอ้พวกเจ้าที่พูดว่า ไอ้ ช หลอกแดกนั้น มันไปหลอกแดกอะไรพวกเจ้า

มันไปขอเงินซักบาทเดียวไหมกับพวกเจ้า

ท่านไม่ได้มาเรี่ยไรผม  ถึงมาเรี่ยไรผมก็ไม่ให้ท่าน แต่ท่านไปหลอกแดกประชาชน มันจะทำให้ประชาชนเดือดร้อนกันไปทั่ว

ไอ้เสียเงินนั่นไม่เท่าไหร่หรอก พวกที่เชื่อท่าน มันจะไปอบายภูมิกันทั้งหมด 

ไอ้ประการหลังนี่แหละ มันเดือดร้อน

ไอ้พวกที่พูดมานี่ ถ้ามีโอกาสได้ฟัง จงไปนั่งคิดพิจารณา ในหลักของภาษาของพระพุทธเจ้าเขาเรียกว่า ลงโทษตัวเอง

ที่เรียกว่า เข้ากรรมเพื่อ สำนึกทบทวนในจริต กริยา มรรยาทของตนเองว่า ทำผิดอะไรบ้าง

ท่าน ช ชั่ว มั่วหลอกแดกประชาชน แสดงความโง่ออกมาอีกแล้ว  สังฆาทิเสส ๑๓ นั้น เป็นเฉพาะพระ ที่ทำผิดแบบนี้

๑. ภิกษุแกล้งทำให้น้ำอสุจิเคลื่อน ต้องสังฆาทิเสส.
๒. ภิกษุมีความกำหนดอยู่ จับต้องกายหญิง ต้องสังฆาทิเสส.
๓. ภิกษุมีความกำหนดอยู่ พูดเกี้ยวหญิง ต้องสังฆาทิเสส.
๔. ภิกษุมีความกำหนัดอยู่ พูดล่อให้หญิงบำเรอตนด้วยกาม ต้องสังฆาทิเสส.
๕. ภิกษุชักสื่อให้ชายหญิงเป็นผัวเมียกัน ต้องสังฆาทิเสส.
๖. ภิกษุสร้างกุฎีที่ต้องก่อและโบกด้วยปูนหรือดิน ซึ่งไม่มีใครเป็นเจ้าของ จำเพาะเป็นที่อยู่ของตน ต้องทำให้ได้ประมาณ โดยยาวเพียง ๑๒ คืบพระสุคต โดยกว้างเพียง ๗ คืบ วัดในร่วมใน และต้องให้สงฆ์แสดงที่ให้ก่อน ถ้าไม่ให้สงฆ์แสดงที่ให้ก็ดี ทำให้เกินประมาณก็ดี ต้องสังฆาทิเสส.
๗. ถ้าที่อยู่ซึ่งจะสร้างขึ้นนั้น มีทายกเป็นเจ้าของ ทำให้เกินประมาณนั้นได้ แต่ต้องให้สงฆ์แสดงที่ให้ก่อน ถ้าไม่ให้สงฆ์แสดงที่ให้ก่อน ต้องสังฆาทิเสส.
๘. ภิกษุโกรธเคือง แกล้งโจทภิกษุอื่นด้วยอาบัติปาราชิกไม่มีมูล ต้องสังฆาทิเสส.
๙. ภิกษุโกรธเคือง แกล้งหาเลสโจทภิกษุอื่นด้วยอาบัติปาราชิก ต้องสังฆาทิเสส.
๑๐. ภิกษุพากเพียรเพื่อจะทำลายสงฆ์ให้แตกกัน ภิกษุอื่นห้ามไม่ฟัง สงฆ์สวดกรรมเพื่อจะให้ละข้อที่ประพฤตินั้น ถ้าไม่ละ ต้องสังฆาทิเสส
๑๑. ภิกษุประพฤติตามภิกษุผู้ทำลายสงฆ์นั้น ภิกษุอื่นห้ามไม่ฟัง สงฆ์สวดกรรมเพื่อจะให้ละข้อที่ประพฤตินั้น ถ้าไม่ละ ต้องสังฆาทิเสส.
๑๒. ภิกษุว่ายากสอนยาก ภิกษุอื่นห้ามไม่ฟัง สงฆ์สวดกรรมเพื่อจะให้ละข้อที่ประพฤตินั้น ถ้าไม่ละ ต้องสังฆาทิเสส.
๑๓. ภิกษุประทุษร้ายตระกูล คือประจบคฤหัสถ์ สงฆ์ไล่เสียจากวัด กลับว่าติเตียนสงฆ์ ภิกษุอื่นห้ามไม่ฟัง สงฆ์สวดกรรมเพื่อจะให้ละข้อที่ประพฤตินั้น ถ้าไม่ละ ต้องสังฆาทิเสส.

ผมเป็นฆราวาสไม่โดนสังฆาทิเสส  มันบวชพระมา 5 พรรษา ไม่รู้เรื่องนี้ได้อย่างไร

หรือจะเรียกว่าเป็นภาษาง่ายๆ ว่าสำนึกในบาปของตนเองไว้ให้ดี ว่าสิ่งที่พูดไปนี่ มันไปก้าวก่ายอะไรใครบ้าง

อย่าคิดว่าตนเองเก่ง อย่าคิดตนเองดี อย่าคิดว่าตนเองแน่ อย่าคิดว่าตนเองเข้าใจอย่างถ่องแท้

ขอโทษนะ ท่าน ช ชั่ว มั่วหลอกแดกประชาชน ผมว่า ผมเก่ง ผมแน่ ผมเข้าใจโลก และธรรมะพอสมควรนะ

ผู้ที่เข้าใจอย่างถ่องแท้ในโลกแล้ว แจ้งโลกแล้ว ไม่ก้าวก่าย ไม่ก้าวล่วงในกรรมของใคร และก็ไม่พูดพล่อยๆ

พระพุทธเจ้าเอง จงจดจำไว้ ถ้าผู้ใดคิดว่าตนเองเป็นสาวกแห่งพุทธะ จงจดจำคำพูดนี้ไว้ให้ดี

พระพุทธเจ้าเอง ไม่เคย ที่จะตำหนิติเตียนพราหมณ์กลุ่มใดเลย แม้แต่สาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ละองค์ แต่ละท่าน แต่ละบุคคล นำจริยามารยาทของพราหมณ์แต่ละหมู่เหล่า ที่สรรเสริญก็มี ที่นินทาก็มี ที่ด่าทอพระพุทธเจ้าก็มี ที่ทำร้ายพระพุทธเจ้าก็มี ที่จ้องจะกล่าวตู่พระพุทธเจ้าก็มี

นำความรู้เหล่านั้น ความเข้าใจเหล่านั้น มาทูลแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่เคยตำหนิบุคคลอื่นเลย

มีแต่บอกว่า อานนท์เอ๋ย กรรมเราทำไว้อย่างนี้ กรรมเขาเป็นอย่างนี้ โลกนี้มีสรรเสริญและนินทา เราจะทุกข์ จะสุขไปไยกับในสิ่งที่มันเกิดดับ เกิดดับ

พระพุทธเจ้าไม่เคยนินทาใครเลย  ไม่เคยกล่าวตู่ใครเลย แม้แต่นางจิญจมานวิกา ที่กล่าวหาพระพุทธเจ้า แม้แต่ใครต่อใครที่จะทำร้ายพระพุทธเจ้า

พระพุทธเจ้าหาตำหนิไม่ แม้แต่เทวทัศน์จะทำร้าย พระตถาคตก็ไม่เคย ที่จะสั่งให้ลงโทษหรือทำร้ายพระเทวทัตแม้แต่น้อย

แล้วมันไปเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าได้อย่างไร ไอ้แค่การวิพากษ์วิจารณ์กัน  เวลาสอนคนเรียนพระโคตรบิดา  โคตรเหง้าเหล่ากออะไรก็ไม่รู้  แต่พอถูกวิจารณ์ อ้างพระพุทธเจ้าเฉยเลย

นี่อย่างไรเล่า สาวกแห่งพุทธะ สาวกแห่งพุทธะทั้งหลาย ที่ยกย่องตนเองว่า เป็นผู้มั่นคงในพระพุทธศาสนา รักษาพระพุทธศาสนา รักษาศีล เป็นผู้ปฏิบัติดี

ทำไมไม่เอาแค่เศษเปลือกกะพี้ เศษเสี้ยวความดีของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แม้แต่น้อยนิด พวกเจ้าก็ไม่เอามาใส่ใจเลย

ทำไมมาก้าวก่าย เพ่งโทษโจษความผิดผู้อื่น แล้วมายกตัวเองว่า เป็นผู้ที่ดีเลิศ ดีขี้หมาพวกเจ้าน่ะซิ เวรตะไล เอาละ พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง พูดไปก็แค่นั้นแหละ

ที่ผมตั้งหัวข้อว่า ท่าน ช ตุ๊ดแตกก็ตรงตัวอักษรสีแดงนั่นแหละ  มีด่าด้วยวุ้ย....... สงสัยเก็บอารมณ์ไว้ไม่ได้

เหงื่อมันออก มันก็ไม่รู้ว่าเหงื่อมันเหม็น จั๊กกะแร้มันมีกลิ่น มันก็ไม่รู้ว่าจั๊กกะไรมันมีกลิ่น เที่ยวไปดมแต่กลิ่นชาวบ้านเขา

เอ้า หัวข้อต่อไป

สาบานได้เลย ผมไม่ค่อยได้พิศวาสจั๊กกะแร้ชาวบ้านเขาหรอก แฟนผมเอง ผมก็ไม่เคยดมของเขา  ไอ้ ท่าน ช ชั่ว มั่วหลอกแดกประชาชน มันชอบทำอย่างนี้หรือไงก็ไม่รู้

ถึงได้เอามายกตัวอย่างได้..........


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น